วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

dtac ดีเดย์วันขาย iPhone

ผมเคยเขียนข่าว dtac ขาย iPhone ผ่านทาง Vodaphone ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยการยืนยันหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน และวันนี้ข่าวงานเปิดตัวก็แถลงการกันอย่างเป็นทางการแล้ววันที่นั้นแม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็น่าจะเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ลือกันหนาหู และคำตอบจากหลายๆ คำถามคงได้คำตอบกันในงานนี้

คำถามที่ถามกันมากคือการเข้ามาของ dtac นั้นช้าเกินไปหรือไม่ แน่นอนว่าเรื่องระยะเวลาเป็นจุดตายของโทรศัพท์กึ่งแฟชั่นเช่น iPhone เป็นอย่างมาก ทรูเองแม้จะเข้ามาทำตลาดก่อนเป็นเวลานานและทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยระยะเวลาที่ทิ้งห่างจากเครื่องต่างประเทศนานเกินไป ทำให้มีเครื่องหิ้วในตลาดนับแสนเครื่องก่อนการนำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการทำให้เหลือพื้นที่ให้ทรูประมาณหนึ่งแสนเครื่องทั้งปี แถมยังเป็นยอดจาก iPhone 3GS ไปประมาณห้าหมื่นเครื่อง ซึ่งเป็นไปได้ว่าเป็นยอดที่ได้จากฐานผู้ใช้เดิมที่อัพเกรดตามรอบเวลา ตรงจุดนี้เอง dtac เองก็จะมีโอกาสจากลูกค้าที่ใช้ไอโฟนอยู่เดิมและยังไม่ได้อัพเกรดเช่นกัน

จุดแข็งหลักของ dtac ที่ยังทำให้ dtac ยังอยู่ในตลาดนี้ได้คือความเหนียวแน่นของผู้ใช้กลุ่มใหญ่ๆ ที่ติดอยู่กับ dtac ไม่ว่าจะเป็นเพราะเลขหมายเดิมอยู่กับ dtac หรือจะติดใจที่อินเทอร์เน็ตของ dtac ค่อนข้างนิ่งมากก็ตามที ตัวผมเองที่เลือกใช้เพราะเมื่อก่อนราคาอินเทอร์เน็ตค่อนข้างถูก แต่หลังๆ ก็พอๆ กับค่ายอื่นเสียแล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยรอโทรศัพท์เจ๋งๆ ที่จะใช้กับ dtac อย่างเป็นทางการได้เสียที เช่นตอน Blackberry เองก็เข้าข่ายเดียวกัน

แต่ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า dtac เอง( อันนี้ลูกค้าอยากให้พูดถึงเครือข่ายอื่นด้วย ว่าก็ประสบปัญหาเหมือนกัน) กำลังสะดุดกับประเด็นด้านเครือข่ายความเร็วสูง เนื่องแม้จะเปิดตัว dtac 3G ไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่สามารถให้บริการในวงกว้างได้แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตามประเด็นนี้เราอาจจะคาดเดาได้ว่า DTAC อาจจะเก็บเครือข่ายนี้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโทรศัพท์ราคาแพงรวมถึงไอโฟนและโทรศัพท์อื่นๆ ในอนาคต เช่นเดียวกับทรูที่เก็บเครือข่ายความเร็ว 7.2Mbps เอาไว้ให้ลูกค้าไอโฟนเช่นกัน

เกร็ดอื่นๆ คือมีข่าวแว่วมาจากทาง MXPhone ว่าในงานเปิดตัวน่าจะมีการลดราคาเป็นพิเศษในช่วงแรก พร้อมกับโปรโมชั่นค่าโทรพิเศษ อันนี้เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนอื่น เราคงต้องรอดูกันในงาน

ที่มา - MXPhone blognone

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ผู้ใช้ไอโฟนในเกาหลีใต้ใช้ไส้กรอกจิ้มจอแทน

หน้าจอแบบ Capacitive นั้นอาศัยหลักการของไฟฟ้าสถิตย์บนผิวหนังของคน ทำให้ไม่สามารถใช้สไตลัสหรือปากกาในการจิ้มหน้าจอได้ แต่ปัญหาดังกล่าวนี้ถูกแก้ไขง่ายๆ ในเกาหลีใต้ด้วยการใช้ไส้กรอกจิ้มหน้าจอแทนครับ (ดูวิดีโอประกอบกันได้)

เหตุผลที่จำเป็นต้องใช้ไส้กรอกนี้เพราะในช่วงนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นในเกาหลีใต้นั้นทำให้ทุกคนต้องใส่ถุงมือ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากใส่ถุงมือแล้วก็ไม่สามารถใช้หน้าจอสัมผัสได้ ครั้นจะใช้ปากกาสำหรับหน้าจอแบบนี้โดยเฉพาะก็แพงและหาซื้อยาก ผู้คนจึงหันมาพกไส้กรอกไว้จิ้มหน้าจอเอาแทน ว่ากันว่าในเกาหลีใต้นั้นการใช้ไส้กรอกจิ้มหน้าจอนี้ถึงกับทำให้บริษัทไส้กรอกมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเลยทีเดียว

ไส้กรอกที่ใช้นั้นควรจะมีขนาดเล็กพอเหมาะให้จับได้สะดวก ใครไม่มีไอโฟนให้ลองจะลองทำกับทัชแพดของโน้ตบุ๊คที่บ้านดูก็ได้ครับ (ผมลองกับไส้กรอกที่บ้านพบว่าต้องเอาพลาสติกหุ้มไส้กรอกออกก่อนครับ)


ที่มา: inews24 (Google Translate) via Pocket Gamer, Engadget,blognone

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Google เตรียมก้าวสู่ตลาด ISP ด้วย Ultra High-speed Network

หลายๆ คนคงได้ลองใช้ Open DNS ของ Google ที่ 8.8.8.8 กันไปแล้ว ล่าสุด
Google ได้ประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการ ว่าได้เริ่มเปิดตัวบริการใหม่ที่เป็นธุรกิจมากขึ้น โดยการกระโดดมาเป็นผู้ให้บริการ ISP เองแล้ว

Google เตรียมเปิดเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP ด้วยความเร็วสูงแบบ Ultra High-speed Broadband Networks ซึ่งมีความเร็วเร็วกว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตทั่วไปในสหรัฐประมาณ 100 เท่า หรือถึง 1 GBps ส่วนราคานั้นยังไม่มีการเอยถึงแต่บอกแค่ว่า “competitive price” หรือราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดหรือเทียบเท่าคู่แข่ง (แต่ไม่รู้ว่าตลาด GB หรือ BB ทั่วไป)

หลายๆ คนคงสงสัยว่า Google ก้าวมาเป็น ISP ทำไม ทาง Google กล่าวขั้นต้นถึงสาเหตุใน VDO หลักๆ 3 ประเด็นคือ

เพื่อพัฒนา App ในยุคถัดไป ด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง App ได้รวดเร็วขึ้น
ทดลองเทคนิคใหม่ในการวางเครือข่าย Fiber Optic
เปิดช่อง และเป็นทางเลือก เพราะ Google จะเปิดเป็นเครือข่ายแบบ "Open Access" ที่เลือกใช้ของตน หรือ ใช้ของรายอื่นควบคู่กันไปด้วยก็ได้
ส่วนการเปิดให้บริการ Google ยังต้องการอาสาสมัครเพื่อเข้าร่วมเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถกรอกแบบฟอร์มออนไลน์เพื่อขอเข้าร่วมได้ โดยจะเริ่มต้นรับขั้นต่ำที่ 50,000 คน และรับสูงสุดที่ 500,000 คน ซึ่งหมดเขตสมัครในวันที่ 26 มีนาคมนี้
ทีมา blognone

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ประมวลภาพสัมมนา

ใครมีภาพเยอะช่วยลดขนาดภาพละไม่เกิน 1 M แล้วส่งมาให้ผมด้วยนะครับที่ xpnetth@gmail.com