วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

iPad: หลุดก่อนงานชื่อ “iPad Air 2” และ “iPad Mini 3” แท็บเล็ตรุ่นใหม่จาก Apple

iPad อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite งานนี้แม้แต่ Apple เองยังมีแอบหลุดให้สาวกตื่นเต้นกับเขาบ้างเหมือนกัน เมื่อมีคนไปค้นพบชื่อ “iPad Air 2” และ “iPad Mini 3” จากหนังสือคู่มือการใช้งาน iOS 8.1 ที่ Apple ปล่อยให้ดาวน์โหลดผ่านทางโปรแกรม iBooks ก่อนที่ภาพดังกล่าวจะอันตรธานหายไปในเวลาเพียงไม่นาน...แต่ยังไม่เร็วเท่านักแคปฯในตำนานของเราหรอก 555 โดยในภาพสกรีนช็อตดังกล่าวเราจะเห็นกันอย่างชัดเจนว่ามีการแนะนำปุ่ม Touch ID ใน iPad Air 2 และ iPad Mini 3 ด้วยซึ่งก็ถือว่าไม่พลิกโผแต่ประการใด นอกจากนี้ในอีกส่วนหนึ่งยังมีการพูดถึงโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง Burst Mode ซึ่งจะมีการเพิ่มเข้ามาใน iPad Air 2 นี่เอง (เหมือน iPhone 5s) ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกอื่นๆนั้นเท่าที่กวาดตาดูก็ยังไม่ค่อยแปลกตาสักเท่าไหร่แฮะอย่างไรก็ตามสำหรับทั้ง iPad Air 2 และ iPad Mini 3 จะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ซึ่งทีมงาน TechXcite เตรียมรายงานสดให้ทุกท่านได้รับชมกันเหมือนเช่นเคยผ่านสามช่องทางหลักคือหน้าเว็บไซต์, แฟนเพจและ Twitter จ้า :D


บทความโดย: ป๋าเอก TechXcite

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

ขสมก. ดีเดย์ 1 ตุลาคมนี้รถเมล์ยูโร 2 ต้องมี WiFi ให้ใช้งานฟรี!



IT อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite ถือได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้โดยสารรถเมล์ในบ้านเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะมนุษย์ไอทีทั้งหลายน่าจะถูกใจกับข่าวนี้ เมื่อทางด้านของ ขสมก. ได้ขีดเส้นตายให้รถเมล์ยูโร 2 (รถสีส้มปรับอากาศ) จำนวน 1500 คันที่ให้บริการอยู่ในเวลานี้นั้นต้องติดตั้ง WiFi Internet ให้ผู้โดยสารได้ใช้งานกันฟรีๆภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 นี้ครับ

ทั้งนี้นอกเหนือจากการติด WiFi Internet บนรถเมล์ปรับอากาศยูโร 2 แล้ว ทางด้านของ ขสมก. ยังมีแผนปรับเปลี่ยนการให้บริการในหลายๆภาคส่วนอาทิเช่นการเปิดให้เอกชนมาเช่าพื้นที่บริเวณอู่รถเมล์เพื่อเปลี่ยนเป็นศูนย์การค้าหรือความบันเทิง ซึ่งพื้นที่ที่มีความพร้อมในลักษณะดังกล่าวจากการประเมินโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ เวลานี้ประกอบด้วยอู่บางเขน, มีนบุรี, สวนสยาม และแสมดำ โดยแผนการณ์ดังกล่าวจะพร้อมให้เอกชนเข้ามาเสนอแผนต้นในช่วงปี 2558 นี่ยังไม่นับรวมแผนงานอื่นๆเช่นเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ ขสมก. และสีรถใหม่ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการจัดประกวดด้วย

สำหรับโครงการเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการหารายได้เพิ่มและฟื้นฟูกิจการของ ขสมก. ที่กำลังดำเนินการกันอยู่ซึ่งไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กำไรหลักแต่มองในส่วนของบริการสาธารณะและเป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยเป็นหลักก่อน โดยรถธรรมดาของ ขสมก. จะเก็บค่าโดยสารถูกกว่าของเอกชน 1.50 บาทและรถปรับอากาศถูกกว่า 2 บาทตามลำดับ

ที่มา techxcite

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา


การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค มีช่วงที่ต้องขุดเจาะอุโมงค์เพื่อลอดผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งการสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินในครั้งนี้จะถือเป็นการขุดเจาะลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย


หนึ่งในช่วงสำคัญของการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค คือการเจาะอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางประมาณ 200 เมตร เพื่อเชื่อมระหว่างฝั่งกรุงเทพมหานครและฝั่งธนบุรี ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในช่วงการซ่อมบำรุงหัวเจาะอุโมงค์ คาดว่าจะสามารถเริ่มได้ในอีก 2 สัปดาห์นับจากนี้
การขุดอุโมงค์ใต้แม่น้ำเจ้าพระยาจะขุดลึกลงไปจากผิวหน้าดินใต้แม่น้ำ 10 เมตร ซึ่งหากวัดจากผิวดิน อุโมงค์จะมีความลึกเกือบ 40 เมตร ผู้รับเหมาก่อสร้าง ระบุว่า ความยากอยู่ที่การคาดเดาว่าผิวดินในแต่ละช่วงจะเป็นอย่างไร ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ และความชำนาญ
สำหรับเทคโนโลยีของหัวเจาะอุโมงค์ก็มีความสำคัญ โดยทางผู้รับเหมาได้นำหัวเจาะที่สามารถเจาะ และลำเลียงดินออกมาทางสายพานได้ ซึ่งดินจะไหลไปตามสายพานไปกองรวมเพียงจุดเดียว ง่ายต่อการนำไปทิ้งโดยไม่ต้องนำคนงานเข้าไปภายในอุโมงค์ นอกจากนี้ หัวเจาะยังใช้ระบบความคุมสมดุลความดันอากาศ หรือ เพรชเชอร์ บาลานซ์
นับถึงวันนี้เหลือเวลาอีก 2 ปีก่อนกำหนดการณ์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง -บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ จะเสร็จสิ้น ซึ่งผู้รับเหมา ระบุว่า การก่อสร้างในปัจจุบันคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 50 และคาดว่าจะเสร็จตามแผนในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือช่วงกลางปี 2559

ทีมา ThaiPBS

วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Microsoft Surface3

Microsoft Surface3  มาดูกันครับว่าจะน่าใช้งานแค่ไหน เทียบ Macbook air ได้เปล่า


วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วันพุธที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2557

Google Fiber Optic Speed Test

บ้างประเทศได้มีโอกาสใช้งาน Fiber Optic To the Home จะได้ Speed ที่ 1 G แล้วครับ


ข้อมูล https://fiber.google.com/about/

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Sync Windows Phone8 กับ PC windows XP

กว่าจะได้เลนเอาเหนื่อยเลย
1.ลง Driver ให้มันหน่อย เลือก Microsoft -> Zune ตามรูปนะครับ บังครับมัรเอา Auto มันจะหาไม่เจอ







วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

iPhone 6: เผย Apple เริ่มพัฒนา iPhone 6 รุ่นต้นแบบใช้หน้าจอกระจก Sapphire! ( By TechXcite )

iPhone 6 อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite มีข่าวมานานแต่ดูท่าว่า Apple อาจจะเริ่มใช้งานกระจกSapphire กันอย่างจริงจังกับ iPhone 6 ก็เป็นได้ หลังมีข่าวเล็ดรอดออกมาจากรั้วยักษ์ใหญ่ไอทีค่ายนี้ว่าพวกเขาได้เริ่มต้นพัฒนา iPhone 6 รุ่นโปรโตไทป์ (ต้นแบบ) ซึ่งจะใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวออกมาแล้วครับ
ทั้งนี้รายงานข่าวเปิดเผยว่าโรงงาน Foxconn ได้ผลิต iPhone 6 รุ่นต้นแบบออกมาเป็นจำนวน 100 เครื่องสำหรับการทดสอบภายในบริษัทซึ่งทุกเครื่องนั้นมีหน้าจอเป็นกระจก Sapphire ที่เป็นวัสดุซึ่งมีความแข็งแรงทนทานและ Apple นำมาใช้กับกระจกหน้าเลนส์กล้องหลังของ iPhone มาโดยตลอดในช่วงหลัง ก็เลยยิ่งโหมกระแสความเป็นไปได้ว่า Apple จะนำกระจก Sapphire มาใช้งานกับ iPhone 6 แบบจริงๆจังๆขึ้นมาอีกระลอกหนึ่งนั่นเอง
โดยก่อนหน้านี้ Apple ได้เซ็นสัญญากับบริษัท GT Advanced Technologies มูลค่า $578 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเปิดโรงงานผลิตกระจก Sapphire โดยเฉพาะมาแล้วที่เมือง Arizona แต่ก็อย่างที่บอกไปครับiPhone 6 เหล่านี้ยังคงเป็นแค่เครื่องต้นแบบเท่านั้นที่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อผลิตออกมาวางจำหน่ายกันในอนาคตแล้วจะยังคงมีสเปคเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ

รีวิว Nokia Lumia 1320 มือถือ WP8 จอใหญ่ราคาถูก พร้อม Microsoft Office ในตัว ( By Blognone )


Lumia
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โนเกียเปิดตัวมือถือ Lumia รุ่นจอใหญ่ 6 นิ้ว (phablet) ใหม่สองตัวพร้อมกันคือ Lumia 1520 และ Lumia 1320
ถึงแม้ความสนใจของคนส่วนใหญ่มักไปอยู่ที่ Lumia 1520 ที่เป็นตัวท็อปเสียมาก (รีวิว 1520 ฉบับ Blognone) แต่ตัวรองอย่าง Lumia 1320 ก็ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะมีสเปกที่ดีพอสมควรในระดับราคาที่ถูกกว่ากันมาก (11,500 บาท vs 22,900 บาท) และซอฟต์แวร์ที่ไม่ต่างจากรุ่นพี่ๆ มากนัก (เป็นแถม Lumia Black มาตั้งแต่โรงงาน)
Lumia 1320

สเปกของ Lumia 1320 และความแตกต่างกับ 1520

  • มือถือทั้งสองตัวใช้หน้าจอขนาด 6 นิ้ว IPS ClearBlack เหมือนกัน แต่จอภาพของ 1520 เป็นจอ ClearBlack ความละเอียด 1080p ส่วนจอของ 1320 เป็นจอ LCD IPS 720p (245 ppi) จากการใช้งานจริงไม่รู้สึกว่าจอไม่ละเอียดแต่อย่างใด ความละเอียด 720p เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป
  • หน่วยประมวลผลของ 1320 ใช้ Snapdragon S4/400 (1520 ใช้ Snapdragon 800) แต่จากการใช้งานจริงก็ไม่รู้สึกว่า 1320 ช้าเลย (เหตุผลหนึ่งคือ WP8 ไม่ค่อยกินเครื่องด้วย)
  • แรม 1GB, ความจุภายใน 8GB, ใส่ microSD ได้
  • กล้องหลัง 5MP ตรงนี้อาจจะด้อยกว่า PureView 20MP ของ 1520 อยู่บ้าง แต่คุณภาพกล้องก็ใช้งานได้พอสำหรับงานทั่วไป
  • แบตเตอรี่ขนาด 3400 mAh
  • รองรับ LTE ในตัว (ใช้ไมโครซิม)
สเปกละเอียดดูได้จาก เว็บไซต์ของโนเกีย ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการคือ 11,500 บาท

รูปลักษณ์ภายนอก

ดีไซน์ของ Lumia 1320 ยังยึดตามคอนเซ็ปต์ของ Lumia คือเป็นพลาสติกสีสันสดใส (เครื่องที่ได้มาทดสอบเป็นสีเหลือง) ส่วนตัวของ Lumia 1320 เองใช้ดีไซน์แนวโค้งมนเหมือนกับ Lumia 620/625 (เหมือนจับเอา 620 มาขยายร่าง)
Lumia 1320
ปุ่มทุกอย่างอยู่ฝั่งขวามือเหมือน Lumia ทุกรุ่น ส่วนฝั่งซ้ายมือไม่มีปุ่มใดๆ
Lumia 1320
ฝาหลังของเครื่องสามารถถอดเปลี่ยนได้ ช่องเสียบซิมการ์ดและ microSD อยู่ที่มุมซ้ายบน ต้องถอดฝาหลังออกก่อนจึงจะเสียบได้ (1520 เป็นแบบถาดใส่นาโนซิม)
Lumia 1320
เทียบขนาดกับ Note 3 จะเห็นว่าใหญ่กว่ากันเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่พอใส่กระเป๋ากางเกงไหว
Lumia 1320

ซอฟต์แวร์

Lumia 1320 ได้อัพเดต Lumia Black มาตั้งแต่โรงงาน ไม่ต้องรออัพเดตเองเหมือน Lumia รุ่นอื่นๆ
รุ่นที่ได้มาทดสอบมีเลขเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการเป็น 8.0.10517.150
จุดเด่นของ Lumia 1320/1520 คือหน้าจอใหญ่สะใจ พร้อมแสดง Live Tiles แบบ 6 คอลัมน์ (ถ้านับ tile ขนาดเล็กที่สุด) ข้อดีคือไม่ต้องเลื่อนจอลงบ่อยเพราะแสดงข้อมูลบนจอได้เยอะขึ้น จากประสบการณ์ที่เคยใช้ 1020 พบว่าจอใหญ่ขึ้นแบบนี้ใช้สะดวกกว่ากันมาก
ส่วนแอพที่มาพร้อมกับเครื่องก็ตามมาตรฐานโนเกียทั่วไป อย่างไรก็ตาม Lumia 1320 มาพร้อมกับกล้อง Camera รุ่นเล็ก (ตามภาพ) ถ้าอยากได้แอพ Nokia Camera ก็สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้จาก Windows Phone Store เอาเองได้ (ตรงนี้น่าจะให้มาพร้อมกันเลยมากกว่า)
แอพอื่นๆ อย่างพวก CinemagraphGlam Me, PhotoBeamer, Nokia Creative Suite ติดมากับเครื่องอยู่แล้ว ส่วนแอพเสริม MixRadio, Nokia Beamer ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเองจาก Store

Microsoft Office บนมือถือ

จุดเด่นของ Windows Phone อีกประการหนึ่ง (ที่คนอาจพูดถึงกันไม่เยอะนัก) คือแอพ Microsoft Office อย่างเป็นทางการ ไมโครซอฟท์ทำเองและเชื่อมต่อกับ SkyDrive ให้อัตโนมัติ ตรงนี้คนที่ต้องอ่านหรือแก้เอกสาร Microsoft Office บนอุปกรณ์พกพาบ่อยๆ อาจพิจารณาเป็นตัวเลือกเหนือแพลตฟอร์มคู่แข่งได้
Office Mobile อาจหน้าตาดูเรียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก แต่มันก็รองรับการใช้งานในกรณีส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ตัวแอพสามารถเปิดเอกสารได้จาก 4 แหล่งที่มา คือ
  1. เอกสารที่เก็บใน local storage ของมือถือเอง (กรณีที่โอนไฟล์เข้ามา หรือสร้างเอกสารใหม่จากมือถือเลย)
  2. email กรณีที่เปิดไฟล์แนบจากอีเมล มันจะจำไว้ให้และมาเปิดจากแอพ Office ในภายหลังได้
  3. SkyDrive น่าจะเป็นการใช้งานที่ง่ายที่สุด ยิ่งถ้าใช้ Office 2013 หรือ Office Web Apps ที่ซิงก์กับ SkyDrive อยู่แล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ
  4. Office 365 สำหรับคนที่จ่ายเงินเป็นสมาชิก Office 365 ก็สามารถเปิดเอกสารได้จากมือถือทันที
เอกสารที่ Office Mobile สามารถอ่านได้คือ Word, Excel, PowerPoint ส่วนเอกสารที่เป็น PDF ไม่สามารถอ่านได้ครับ (แก้ได้โดยการโหลดแอพ PDF Reader ของไมโครซอฟท์มาติดตั้ง ตรงนี้ควรรวมมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานตั้งแต่ต้น)
Office Mobile สามารถสร้างเอกสารใหม่ได้เลย (เฉพาะ Word/Excel เท่านั้น PowerPoint ยังทำไม่ได้) โดยแอพจะมีเทมเพลตเอกสารที่ใช้บ่อยมาให้จำนวนหนึ่ง
ประเด็นสำคัญของคนใช้ Office คงอยู่ที่ว่าเปิดเอกสารแล้วเพี้ยนจากต้นฉบับแค่ไหน ตรงนี้เราลองโดยการเปิดเอกสารจริง พบว่าการแสดงผลทำได้ค่อนข้างถูกต้อง จะมีติอยู่บ้างคือฟอนต์ภาษาไทยที่รองรับเพียงฟอนต์เดียวเท่านั้น ไม่ว่าใช้ฟอนต์ไทยใดในเอกสาร มันจะถูกเปลี่ยนเป็นฟอนต์ของ Windows Phone แทน (ซึ่งก็อ่านได้ปกติแค่ไม่สวยเท่าไร)
สำหรับเอกสารที่เป็น Word แอพจะแสดงข้อความแบบฟิตพอดีจอ ไม่ต้องเลื่อนซ้ายขวา รองรับการแก้ไขข้อความ การใส่คอมเมนต์ และการปรับฟอร์แมต (ตัวหนา ตัวเอียง สีตัวอักษร) ในระดับหนึ่ง
การแก้ไขเอกสารคงไม่สะดวกเท่ากับการแก้บนคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว แต่ก็เพียงพอสำหรับการแก้ไขเอกสารเล็กๆ น้อยๆ (เช่น เพื่อนร่วมงานอีเมลไฟล์มาให้ตรวจ) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พบบ่อยบนมือถือ
เอกสาร Excel ลองเปิดเอกสารที่มีกราฟและชาร์ตประกอบ พบว่าแสดงผลได้ถูกต้อง แต่ไม่สามารถแก้กราฟได้จากมือถือ (แก้ตัวเลขในเซลล์ได้) สามารถปรับสูตรได้บ้างในระดับหนึ่ง และรองรับการแสดงผลเอกสารที่มีหลาย sheet ในไฟล์เดียว
สุดท้ายเอกสาร PowerPoint สามารถเปิดอ่านได้สวยงาม ไม่มีเพี้ยน สามารถแก้ข้อความในสไลด์ได้จากมือถือ (แต่แก้ฟอร์แมตไม่ได้) และสลับตำแหน่งของสไลด์ได้

OneNote

แอพตัวสุดท้ายในชุด Office คือ OneNote แอพจดโน้ตที่หลายๆ คนชอบใช้งาน แอพซิงก์กับบัญชี SkyDrive ได้เลย (ดังนั้นใครที่ใช้ OneNote เวอร์ชันหลังๆ ที่ซิงก์อัตโนมัติแล้วจะสะดวกมาก) แสดงผลได้ถูกต้อง สามารถแทรกภาพหรืออัดเสียงลงในโน้ตจากมือถือได้เลย

กล้อง

ภาพตัวอย่างจากกล้อง Lumia 1320 (ถ่ายด้วยแอพ Camera ตัวปกติ ไม่ใช่ Nokia Camera) ตั้งทุกอย่างเป็น Auto ทั้งหมด (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม) ถือว่าใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์แบบ PureView ทั้งหลายคงไม่มีให้ครับ
Lumia 1320 CameraLumia 1320 CameraLumia 1320 CameraLumia 1320 CameraLumia 1320 CameraLumia 1320 Camera

สรุป

Lumia 1320 ถือเป็นมือถือ Windows Phone รุ่นหลังๆ ที่น่าสนใจมาก หน้าจอใหญ่สะใจ สเปกโอเค กล้องโอเค ซอฟต์แวร์มาตรฐานครบครัน ในราคาที่ไม่แพงเท่ากับพวกตัวท็อปอย่าง 1020/1520 (ที่มีจุดขายอยู่ที่กล้องและสเปกแรง)
สุดท้ายแล้วการตัดสินใจซื้อ Lumia 1320 คงกลับไปอยู่ที่การเลือกแพลตฟอร์ม Windows Phone มากกว่า ถ้าพอใจกับ Windows Phone ทั้งในแง่ฟีเจอร์ของตัวระบบปฏิบัติการและจำนวนแอพ (ที่ดีขึ้นเยอะหลังอัพ Lumia Black แต่อาจจะยังด้อยกว่าคู่แข่งในบางจุด) แล้วอยากได้ Windows Phone ราคาไม่แพงจนเกินไป Lumia 1320 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน