วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สตง.เดินหน้าฟัน2โครงการโทรคมนาค


สตง.เดินหน้าฟัน 2 โครงการใหญ่วงการโทรคมนาคม สัญญา กสท-ทรู และโครงการ 3จีทีโอที หลังพบข้อสงสัย

เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่งานเสวนา “กสท จับมือ ทรู ใครได้ประโยชน์? ผู้บริโภคได้อะไร?” จัดโดยชมรมผู้สื่อข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ(ไอทีพีซี) และสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รักษาการราชการในตำแหน่งผู้ว่าการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 ก.พ.54จะส่งหนังสือท้วงถามไปยัง บริษัท กสท โทรคมนาคมจำกัด (มหาชน) และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ให้เร่งชี้แจง 14 ประเด็นข้อสงสัยในการเซ็นสัญญาร่วมธุรกิจระหว่าง กสท และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ทาง สตง.ได้ส่งหนังสือไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยให้เวลาชี้แจงอีกภายใน 7 วัน หากยังไม่มีการตอบรับใดๆ จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช.) ต่อไป

"ถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่เห็นคำชี้แจงของ กสท รวมทั้ง กระทรวงไอซีที ในเรื่อง 14 ข้อสงสัยของสัญญาฉบับนี้ ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ จะทำหนังสือส่งทั้งกสท และไอซีทีให้ตอบมาใน 7 วัน ถ้าไปตอบคงต้องเป็นเรื่อง ปปช.ที่จะเข้ามาตรวจสอบข้อสงสัยตรงนี้" นายพิศิษฐ์ กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การตั้งข้อสังเกตของ สตง.ครั้งนี้ ถือเป็นการบรรเทาให้ฝ่ายรัฐสามารถที่จะตรวจสอบ และรักษาผลประโยชน์ให้ตกกับฝ่ายรัฐไว้ให้ได้มากที่สุด แม้ว่า จะไม่มีอำนาจที่ทำให้สัญญานี้เป็นโมฆะ หรือล้มเลิกในทันที แต่ต้องการให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขในส่วนที่ไม่ถูกต้อง เพราะคาดว่า สัญญาดังกล่าวจะผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว)

นายพิศิษฐ์ ระบุว่า นอกจากนี้ สตง. ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารชุดใหญ่ เพื่อส่งหนังสือถามถึงความโปร่งใสการประมูลโครงการทีโอที 3 จี ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งหนังสือไปยังทีโอทีได้ภายใน 2-3 วันนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง ซึ่งจะเน้นการถามเกี่ยวกับเรื่องความเป็นธรรมในการแข่งขัน รวมทั้งการปรับตกคุณสมบัติของผู้เข้ายื่นซองทั้ง 2 ราย ได้แก่ อีริคสัน และแซดทีอี ว่าเป็นการปรับตกในรายละเอียดที่เป็นนัยยะสำคัญหรือไม่ เพราะต้องตรวจสอบรอบคอบว่า ผู้ชนะประมูลเป็นคู่แข่งกับทีโอทีหรือไม่

ที่มา http://www.dailynews.co.th